ประวัติความเป็นมาของ Cold Brew Coffee ในเอเชีย
ประวัติความเป็นมาของ Cold Brew Coffee ในเอเชีย
ถึงแม้ว่าในยุโรปกาแฟส่วนใหญ่จะดื่มเป็นเครื่องดื่มร้อนแต่พ่อค้าชาวดัตช์ใน “ตะวันออก” ใช้วิธีการสกัดแบบเย็น ซึ่งวิธีการแบบเย็นนี้ถูกใช้เพื่อให้สามารถชงกาแฟจำนวนมากที่จะไม่หมดอายุในช่วงเวลาที่นักเดินทางใช้เวลาในทะเล และวิธีการสกัดแบบเย็นนี้ เป็นวิธีที่รู้จักกันในเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างแพร่หลาย และรู้จักกันในจนถึงทุกวันนี้
Cold Brew Coffee หรือ “กาแฟสกัดเย็น”
เป็นการทำกาแฟที่ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอณุหภูมิห้องในการสกัดแบบแช่ (Immersion) แล้วจะมีการสกัดอีกแบบหนึ่งคือแบบหยด (Cold Drip หรือ Dutch Coffee) ถึงแม้จะเป็นการสกัดด้วยน้ำอณูหภูมิที่ต่ำเหมือนกันแต่วิธีทำที่ต่างกันก็รสชาติก็จะต่างกันไปด้วย
ความต่างระหว่าง Cold Drip กับ Cold Brew
Cold Drip คือ การใช้น้ำหยดลงบนผงกาแฟที่บดไว้ที่ละหยด จะใช้เวลาอยู่ที่ 4-12 ชม. ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำจะแบ่งเป็น 3 ส่วน 1.ที่ใส่บรรจุน้ำ 2.ส่วนที่บรรจุกาแฟที่บด 3.ส่วนที่บรรจุน้ำกาแฟที่สกัดการสกัดแบบนี้จะทำให้ให้การกาแฟมีความซับซ้อนมากกว่า เพราะการหยดแบบนี้โดยใช้แรงโน้นถ่วงของโลกในการสกัดจะทำให้รสชาติออกมาให้ซับซ้อนกว่าแบบ Cold Brew
Cold Brew คือ การสกัดโดยการแช่ ซึ่งวิธีที่ทำไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากแค่มีที่บดกาแฟ,ภาชนะที่ใส่น้ำกับกาแฟด้วยกันได้ก็พอ เช่น French Press หรือ อุปกรณ์ที่ไว้ทำCold Brew เวลาที่ใช้ในการสกัดจะอยู่ที่ 8-24 ชม. การสกัดแบบนี้จะทำให้คาแรตเตอร์กาแฟออกมาบาลานซ์ และดื่มง่ายกว่ารสชาติไม่ได้ซับซ้อนแล้วโดดเด่นมากหรืออาจจะมีกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงฆ์เกิดขึ้นได้เพราะมาจะการแช่สกัด
สิ่งที่ต้องเตรียมการทำCold Brew
- เมล็ดกาแฟ ควรใช้กาแฟที่คั่วอ่อนค่อนกลางหรือคั่วกลางถ้าใช่กาแฟที่คั่วอ่อนจะทำให้รสชาติกาแฟ ออกมาเขียวแล้วไม่ค่อยหวานเท่าที่ควรจะทำให้ดื่มยาก
- น้ำ ควรจะต้องเป็นน้ำที่สะอาดไม่มีสีไม่มีกลิ่นสามารถใช้น้ำที่เย็นหรือน้ำที่เป็นอณูหภูมิห้อง
- เครื่องบดกาแฟ ควรที่จะเป็นเครื่องบดไฟฟ้าจะสะดวกกว่าถ้าเป็นเครื่องบดมืออาจจะใช่เวลาในการบดนานกว่าและไม่เหมาะกับการที่จะทำเยอะๆ ควรที่จะต้องบดระดับ Coarse หรือ Medium-Coarse (ประมาณ 950-1200 ไมคอน)
- อปุกรณ์ที่ใช้ทำ Cold Brew ไม่ว่าจะเป็น French Press หรือ อุปกรณ์ที่ใช้ทำเฉพาะอย่าง Toddy Cold Brew
ขั้นตอนการทำCold Brew
1.บดกาแฟตาม Ratio(สัดส่วนน้ำกับกาแฟ) ที่ตั้งไว้เช่น ต้องการเข้มข้นอาจจะใช้ Ratio 1:8 (กาแฟ 100 กรัม กับ น้ำ 800 มิลลิลิตร) หรือ ดื่มง่ายๆก็เป็น Ratio 1:10 (กาแฟ 100 กรัม กับ น้ำ 1000 มิลลิลิตร)
2.นำกาแฟที่บดแล้วมาใส่ภาชนะหรือใส่ถุงแล้วเติมน้ำตาม Ratio ที่ต้องการแล้วใช้ช้อนคนให้กาแฟโดนน้ำให้ทั่วจะแช่ใส่ตู้เย็นหรือไม่แช่ก็ได้เพราะไม่มีสูตรตายตัว
3.พอครบเวลาที่กำหนดก็นำมากรองกับกระดาษหรือผ้าได้ต้องการ (จะต้องแช่เวลาเท่าไหร่นั้นก็แล้วแต่ความชอบเลยนะครับ)
4.เสร็จแล้วก็สามารถดื่มได้เลย แนะนำให้เก็บในตู้เย็นจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน
ซึ่งปัจจุบันจะทำ Cold Brew หรือ Cold Drip มาทำเมนูในสไตล์สร้างสรรค์ที่ผสมน้ำผลไม้,ไซรัปต่างๆหรือแม้กระทั่งทำเมนูที่ใส่แอลกอฮอล์อย่างค็อกเทล เพราะกาแฟสกัดเย็นแบบนี้จะทำให้รสชาติความขมน้อยกว่าใช้น้ำร้อนชง จึงเหมาะกับการมาทำเมนูสร้างสรรค์ต่างโดยที่ไม่มีความขมนั้นๆมากวนใจ และยังเหมาะกับการพกไปไหนสามารถดื่มได้เลยสะดวกมากๆ
ขอให้มีความสุขกับการดื่มกาแฟนะครับ
Tag:Cold Brew